แชะ ชิม ชิล ย่าน ‘ตลาดน้อย’ ชุมชนเก๋ไก๋ริมน้ำเจ้าพระยา

วันนี้จะพาไปเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอย ชมวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายจีนในย่านชุมชนเก่าแก่ที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของสำเพ็งซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ในอดีต และปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นและชาวต่างชาติ ใช่แล้วที่นี่คือ ตลาดน้อย

.

ตลาดน้อยตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตสัมพันธวงศ์ ใกล้ย่านเยาวราช ครอบคลุมเนื้อที่ตั้งแต่วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร ถึงปากคลองผดุงกรุงเกษมด้านใต้ ฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของ ล้ง 1919 สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจไม่แพ้กัน ภายในชุมชนจะมีแลนด์มาร์คสำคัญหลายจุดที่นักท่องเที่ยวควรปักหมุดแวะไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าโจ๋วซือกง บ้านโซวเฮงไถ่ ศาลเจ้าโรงเกือก วัดแม่พระลูกประคำ รวมถึง งานสตรีทอาร์ทที่อยู่บนกำแพงตามซอกซอยต่าง ๆ

.

.

.

.

.

การท่องเที่ยวย่านตลาดน้อยสามารถทำได้ทั้งการเดินและการปั่นจักรยาน ซึ่งแต่ละสถานที่จะอยู่ไม่ห่างกันมากนัก โดยจุดแรกที่จะพาไปชมคือ ศาลเจ้าโจ๋วซือกง ตั้งอยู่ท้ายซอยดวงตะวัน

.

บรรยากาศภายในศาลสงบเคร่งขรึม ลักษณะอาคารเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนฮกเกี้ยนโบราณ ส่วนหลังคาและผนังตกแต่งด้วยตุ๊กตาปูนปั้นประดับกระเบื้อง ภายในประดิษฐาน เทพพระเจ้าเฉ่งจุ้ยจ้อซูกง ที่อัญเชิญมาจากมณฑลฮกเกี้ยนประเทศจีน ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ อายุกว่า 200 ปี

.

ปัจจุบันศาลเจ้าโจ๋วซือกง ยังเป็นศูนย์กลางของชาวจีนฮกเกี้ยนในกรุงเทพฯ และมีชื่อเสียงด้านการจัดประเพณีกินเจ ซึ่งจะจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ทุกปีและมีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน

.

.

.

.

.

.

.

หลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้วก็ได้เวลาออกเดินกันต่อ จุดต่อมา คือ บ้านโซวเฮงไถ่ ตั้งห่างจากศาลเจ้าโจ๋วซือกง ประมาณ 200 เมตร จุดสังเกตคือซุ้มประตูที่สร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมจีน และโคมแขวนขนาดใหญ่ ที่ปานประตูไม้จะเปิดแง้มไว้เล็กน้อยเพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยว

บ้านโซวเฮงไถ่ เป็นหมู่อาคารก่ออิฐฉาบปูน ประกอบไปด้วยอาคาร 4 หลัง เชื่อมต่อกันเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือที่เรียกว่าเรือนสี่ประสาน ส่วนระเบียง ประตู หน้าต่าง และโครงสร้างหลังคาสร้างจากไม้สักทองทาสีแดงสด บริเวณลานกลางบ้านมีสระน้ำไว้ประกอบกิจกรรมสอนดำน้ำ บรรยากาศภายในเมื่อเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ของเก๋งจีนสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เหมาะกับการผ่อนคลาย แชะภาพ นั่งชิล ในวันว่างสุดสัปดาห์

.

.

.

.

.

.

.

.

.

จากบ้านโซวเฮงไถ่เดินลัดเลาะมาอีก 100 เมตร ก็จะพบ ศาลเจ้าโรงเกือก

.

การที่ในอดีตบริเวณชุมชนแห่งนี้เคยเป็นท่าเรือค้าขายที่มั่งคั่งรุ่งเรือง ย่านนี้จึงมีชาวจีนอพยพหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากและหลากหลายกลุ่ม ทั้งชาวจีนแต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน ไหหลำ และชาวจีนฮากกา หรือ จีนแคะ ที่เป็นผู้ก่อตั้งศาลเจ้าโรงเกือกด้วยแรงศรัทธาเมื่อกว่าร้อยปีก่อน

.

ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน เจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง เชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ อัญเชิญมาจากประเทศจีน หากได้มาขอพรสักครั้งก็จะเป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่างมาก

.

.

.

.

.

.

และนอกจากย่านตลาดน้อยจะเป็นที่อาศัยของชาวจีนหลายกลุ่มแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกสถาปัตยกรรมแบบนีโอกอทิกที่เก่าแก่ที่สุดในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อตั้งโดยชาวโปตุเกสที่อพยพมาอยู่ในย่านนี้ตั้งแต่เริ่มสร้างกรุงใหม่ ๆ

.

โครงสร้างอาคารเป็นรูปไม้กางเขนหันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างด้วยเทคนิคก่ออิฐถือปูน ส่วนยอดเป็นหอระฆังสูงโดดเด่นภายในโอ่โถงกว้างขวางประดับตกแต่งด้วยรูปปูนปั้นและกระจกสีบอกเล่าเรื่องราวที่ปรากฎในพระคัมภีร์ไบเบิลด้านในสุดของโบสถ์เป็นที่ตั้งของแท่นหินอ่อน และเหนือแท่นมีรูปจำลองของแม่พระกับพระกุมาร กำลังมอบสายประคำให้นักบุญดอมินิกและนักบุญกาเตรีนาแห่งซีเอนา

.

หากมาเที่ยวย่านตลาดน้อย อย่าลืมแวะมาเด็ดขาด Cool !

.

.

.

.

.

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวชุมชนย่านตลาดน้อยสามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาขึ้นที่กรมเจ้าท่าซึ่งจะสะดวกมาก หรือรถประจำทางสาย 1 35 ร. 75 และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง

.

#ป๋าแนทเที่ยวเตร่