โรสวูด หลวงพระบาง ต้อนรับเชฟแอน อาเหม็ด และเจ้าของร้าน Khâluna เพื่อร่วมรังสรรค์อาหารค่ำมื้อสุดพิเศษร่วมกับหัวหน้าเชฟของรีสอร์ต เชฟไอซ์ วชิรวิชญ์ เลิศธนพรสิทธิ์

โรสวูด หลวงพระบาง มีความยินดีที่จะนำเสนอดินเนอร์สุดพิเศษในแบบฉบับ Homecoming Dinner โดยเชฟแอน อาเหม็ด ผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นดินเนอร์คืนสู่เหย้าในรอบหลายสิบปีของเชฟแอน อีกทั้งเป็นมื้อค่ำสุดพิเศษ ที่รังสรรค์ร่วมกับเชฟ วชิรวิชญ์ เลิศธนพรสิทธิ์ (เชฟไอซ์) หัวหน้าเชฟของโรสวูด หลวงพระบาง เป็นมื้อค่ำสุดพิเศษเพียงมื้อเดียว ที่จะจัดขึ้น ในวันที่ 20 มกราคม 2567 ที่ เดอะเกรทเฮ้าส์ ณ โรสวูด หลวงพระบาง

ในปี 2566 เชฟแอนได้รับเกียรติเข้ารอบรองชนะเลิศรางวัล James Beard Award สาขาเชฟที่ดีที่สุดในภาคตะวันตกของ สหรัฐอเมริกา ไม่นานก่อนที่จะเปิดธุรกิจล่าสุดของเธอคือร้าน Gai Noi ซึ่งได้ปรากฏใน ‘The Restaurant List 2023’ ให้เป็นหนึ่งใน 50 ร้านอาหารชื่อดังทั่วสหรัฐอเมริกา โดย The New York Times

เชฟแอน อาเหม็ด โฮมคัมมิ่งดินเนอร์ 4 คอร์สในวันที่ 20 มกราคม 2567 จะเสิร์ฟแบบการทานอาหารอย่างลาวแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการทานมื้อค่ำร่วมกันในครอบครัว อีกทั้งเพื่อสะท้อนถึงปรัชญา ‘A Sense of Place®’ ของ Rosewood ซึ่งเชิญชวนแขกให้มาค้นพบวัฒนธรรมท้องถิ่นอันรุ่มรวยของประเทศลาว

“ไก่น้อย” ตั้งชื่อตามข้าวเหนียวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิภาคเชียงขวางทางตอนเหนือของประเทศลาว ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของเชฟแอนและครอบครัวของเธอ ร้านอาหารของเธอ อย่าง Gai Noi จึงได้ยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมลาวที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกและอัตลักษณ์ของเธอ โดยเฉพาะสำหรับอาหารค่ำมื้อพิเศษ ในโอกาสนี้ เชฟแอนใช้ประโยชน์จากมรดกของเธอ โดยออกแบบเมนูที่แสดงความเคารพต่อการกลับมาทำอาหารที่ลาวในครั้งนี้ โดยมีแม่ของเธออยู่เคียงข้างในการรังสรรค์มื้อค่ำสุดพิเศษนี้

จานต้อนรับอย่างหมาก คอล เมื่อสุกจะมีเปลือกสีฟ้าอมม่วง หาซื้อได้ตามตลาดท้องถิ่นเช้าเพราะหาทานได้ในป่าเท่านั้น เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แบ่งปันอาหารอันโอชะที่หาได้จากป่าของลาวนี้ให้กับแขกของเรา เนื้อครีมเนียนนุ่มของ หมากคอล จะถูกนวดอย่างสวยงามลงในข้าวเหนียว ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บเล็กน้อย และโรยด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนและงาคั่วเล็กน้อย รังสรรค์ให้เกิดการต้อนรับที่สมบูรณ์แบบสำหรับแขกของเราที่โรสวูด หลวงพระบาง

จานถัดมาเป็นแกงบังกลาเทศที่มีกลิ่นหอมผสมกับเครื่องเทศแบบดั้งเดิม แสดงถึงมรดกทางอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาค และเสิร์ฟพร้อมกับโรตีสด ซึ่งเป็นแผ่นแป้งสุดคลาสสิกของเอเชียใต้ เมนูที่เสิร์ฟพร้อมข้าว ได้แก่ หมกหน่อไม้ใส่หมูสามชั้นใช้ไม้ไผ่สีแดงจากหมู่บ้านบนภูเขา และแน๊บเป็ด (เป็ดสับย่างถ่าน)

อาหารจานหลักคือลาบ ที่คัดสรรรสชาติต่างๆอย่างพิถีพิถัน ลาบที่ทำจากเนื้อย่าง ไก่ผัดขิง และหมกไก่ (สาหร่ายลาว ไม้เผ็ดสะคาน ผักชีลาว และข้าวเหนียวห่อใบตอง และนึ่ง) เสิร์ฟพร้อมแกงแซ่บกระดูกหมู ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยผลไม้สดในท้องถิ่น, ขนมครก (กะลามะพร้าวใบเตยสอดไส้เผือก) และขนมหมอต่อก (กล้วยทอดและข้าวเหนียว)

ในวันที่ 20 มกราคม 2567 เชฟแอนจะร่วมรังสรรค์อาหารค่ำร่วมกับเชฟวชิรวิชญ์ หรือเชฟไอซ์ หัวหน้าเชฟ จากโรสวูด หลวงพระบาง เพื่อเฉลิมฉลองประเพณีการทำอาหารระดับภูมิภาค และเพื่อแบ่งปันเวลาการทานมื้อค่ำกับคนที่รัก เชฟไอซ์ มีประสบการณ์การทำอาหารเกือบ 15 ปี จากการเป็นเชฟในไทย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และลาว

เชฟแอน อาเหม็ด เกิดในประเทศลาวและเติบโตในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นเส้นทางการทำอาหารในครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยช่วยเหลือแม่และยายของเธอ เพื่อเติมเต็มความฝันในชีวิตเธอได้ริเริ่มเปิดร้าน Lemon Grass Thai Cuisine ในบรูคลินพาร์ค รัฐมินเนโซตาในปี 2548 กว่าทศวรรษต่อมาเธอได้เปิดตัว Lat 14 Asian Eatery ณ Golden Valley โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารและวัฒนธรรมตามแนวเส้นขนานที่ 14 ซึ่งหมายถึงประเทศลาว, ประเทศไทย , กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ ร้านอาหารแห่งที่สามของเธอชื่อว่า Khâluna ซึ่งหมายถึง ‘ความเมตตา’ ในพุทธศาสนา ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของชุมชนที่ร้านตั้งอยู่ และได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน 15 ร้านอาหารใหม่ที่ดีที่สุดในอเมริกาโดย Eaters

มื้อค่ำสุดพิเศษโดยเชฟไอซ์และเชฟแอน เสิร์ฟเวลา 17.30 น. ในวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2024 ที่ The Great House ในราคา USD 95 ต่อคน และ USD 48 สำหรับเด็กอายุระหว่าง 6-12 ปี ราคายังไม่รวมภาษีและค่าบริการ 17%